พฐ.เก็บหลักฐานในโกดัง "วิน โพรเสส" บางจุดยังเข้าไม่ได้

Wed, 8 May 2024 19:39:42

วันนี้ (8 พ.ค.2567) เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษใช้เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ เข้าประเมินความเสี่ยงสารปนเปื้อนในอากาศ ก่อนที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปตรวจสอบในโกดัง บริษัท วินโพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อเก็บหลักฐานเป็นครั้งแรก หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เพราะก่อนหน้านี้มีเพียงโดรนและหุ่นยนต์สุนัขที่เข้าไปสำรวจภายในโกดังได้

อ่านข่าว : "วิน โพรเสส" ยอมให้ใช้เงินวางศาล 6 ล้านจัดการกากสารเคมี

จุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบได้ คือบริเวณสำนักงานและโกดังที่ 5 ซึ่งเป็นจุดต้นเพลิง อยู่ติดกับสวนยางพาราของชาวบ้านหนองพะวา แต่โกดังที่ 3 ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะมีสาร "อลูมิเนียมดรอส" ทำปฏิกิริยากับน้ำ ทำให้เกิดกลุ่มควันและกลิ่นฉุน คาดว่าจุดนี้ต้องใช้เวลาอีกหลายวันจึงจะเข้าไปตรวจสอบได้

นอกจากนี้ยังใช้โดรนบินเก็บหลักฐานในจุดที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเข้าไปได้ เนื่องจากโครงสร้างของอาคารได้รับความเสียหาย และยังมีกองสารเคมีและถังบรรจุสารเคมีเป็นจำนวนมาก

อ่านข่าวสังเวยอีก 1 ฮีทสโตรก "ตำรวจ" รอฝึกทดสอบยุทธวิธี

เสียหายหนัก "บ้าน" ใกล้อาคารถล่ม ฝ้าหลังคาพัง-เศษปูนเข้าบ้าน

เอกชนค้านขึ้น “ค่าแรง 400 บาท” ชี้เสี่ยง GDP โตไม่ถึง 3%


รวบอดีต ตชด.หนีคดีอุ้มฆ่า 2 วัยรุ่นทิ้งทะเลสาบสงขลา

Wed, 8 May 2024 12:52:18

วันนี้ (8 พ.ค.2567) ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ คอมมานโด เข้าจับกุมนายคมกริช อายุ 39 ปี อดีตตำรวจยศ ส.ต.อ. ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน หลังหลบหนีการจับกุมในคดีร่วมกันอุ้มฆ่าวัยรุ่นชาย 2 คน

ก่อนหน้านี้ ตำรวจ สภ.สิงหนคร จ.สงขลา ได้รับแจ้งว่ามีวัยรุ่นชาย 2 คนถูกผู้ก่อเหตุ 5 คนจับกุมตัวไปเมื่อปี 2558 ก่อนจะพบศพลอยอยู่ในทะเลสาบสงขลา พื้นที่หมู่ 2 ต.สทิ้งหม้อ อ.สทิงพระ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงหลายนัด ส่วนอีกคนหนึ่งพบศพในวันถัดมาลอยอยู่ใกล้กันกับจุดแรก สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะ

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุและตามจับกุมได้ทั้งหมด คงเหลือนายคมกริช ที่ยังหลบหนี

ซึ่งวันนี้ (8 พ.ค.) ตำรวจคอมมานโดสืบทราบว่า นายคมกริช พักอาศัยอยู่ที่บ้านใน ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อไปถึงพบว่านายคมกริช พยายามวิ่งเข้าไปในบ้าน เพื่อนำอาวุธปืนมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ แต่ถูกจับกุมได้ก่อน

เจ้าหน้าที่นำตัวนายคมกริช ไปตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนสั้น 5 กระบอกและเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่านายคมกริช ถูกไล่ออกจากราชการจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ตั้งแต่ช่วงปี 2558

จากการสอบสวน นายคมกริช ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่คนยิงผู้ตาย แต่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้นและไม่ให้การถึงสาเหตุการลงมือก่อเหตุ จึงคุมตัวส่ง สภ.เจาะไอร้อง ดำเนินคดี

อ่านข่าว

ช่วยได้แล้ว "น้องมาร์ติน" เด็กชาย 9 เดือนถูกลักพาตัว

ยิงปลัด อบต.คอลอตันหยง-ผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตกลางสนามฟุตบอล

พายุฤดูร้อนพัดถล่ม จ.อุบลราชธานี 3 วัน บ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 350 หลัง


ยิงปลัด อบต.คอลอตันหยง-ผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิตกลางสนามฟุตบอล

Wed, 8 May 2024 07:17:00

วันที่ 7 พ.ค.2567 เวลา 18.30 น. ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงในงานแข่งขันกีฬาประจำปีองค์การบริหารส่วนตำบลคอลอตันหยง ที่บริเวณสนามฟุตบอล พื้นที่หมู่ 2 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ได้แก่ นายเชิดชัย พรมราชแก้ว อายุ 56 ปี ปลัด อบต.คอลอตันหยง และนายสิทธิชัย เพ็ชรสุริยา ผู้ใหญ่บ้านบ้านไร่ หมู่ที่ 6 ต.คอลอตันหยง

นอกจากนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน คือ นายมะกอเซ็ง ดาโต๊ะ อายุ 58 ปี ถูกยิงบริเวณหน้าอกซ้าย, นายณัฐศักดิ์ ศรียาน อายุ 38 ปี นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.คอลอตันหยง ถูกกระสุนบริเวณเหนือเข่าขวา และ น.ส.สุริยาณี อาลี ได้รับบาดเจ็บขาขวา โดยนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี

ขณะที่ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน พร้อมทั้งสั่งการคุมเข้มพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ รวบรวมวัตถุพยาน และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ ทุกฐานปฏิบัติการเพิ่มมาตรการควบคุมความปลอดภัย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียของกำลังพลเจ้าหน้าที่และประชาชน


"วิน โพรเสส" ยอมให้ใช้เงินวางศาล 6 ล้านจัดการกากสารเคมี

Tue, 7 May 2024 20:54:57

วันนี้ (7 พ.ค.2567) นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางไปศาลจังหวัดระยอง เพื่อขอให้ศาลฯ สั่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำเนินการกับกองกากสารเคมีในโรงงาน วิน โพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยใช้งบประมาณ 6 ล้านบาทที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด วางไว้กับศาล มาดำเนินการจัดการสารเคมีและกากอุตสาหกรรมที่เกิดเพลิงไหม้ เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน

หลังจากบริษัท วิน โพรเสส จำกัด ได้ว่าจ้างให้บริษัท เอสเค อินเตอร์เคมิคอล จำกัด ในฐานะผู้รับจ้างฯ ให้ดำเนินการนำสารเคมีและกากอุตสาหกรรมไปกำจัดตามคำสั่งศาล จนเกิดความล่าช้าและเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น

วันนี้ (7 พ.ค.) ศาลฯ ยังนัดให้เจ้าของบริษัท วิน โพรเสสฯ เข้ามาไต่สวนด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เจ้าของบริษัทปรากฏตัวหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน

ผลการไต่สวน ระบุว่า เจ้าของบริษัท วิน โพรเสสฯ ยินยอมให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำงบประมาณ 6 ล้านบาทไปใช้ดำเนินการกำจัดกากสารเคมีภายในโรงงาน ส่วนที่เหลือกรมโรงงานจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย และของบประมาณส่วนอื่นมาดำเนินการ แล้วฟ้องร้องเรียกคืนจากเจ้าของโรงงาน

ขณะที่นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง ประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนขุดบ่อดักสารเคมี บ่อที่ 3 หลังฝนตกลงมาในพื้นที่ต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในบ่อที่ขุดไว้ภายในโรงงานก่อนหน้านี้เอ่อล้น จนหวั่นว่าจะไหลออกไปสู่ชุมชน จึงหารือกันว่าจะใช้พื้นที่หลังโรงงาน ซึ่งเป็นสวนยางของนายเทียบ สมานมิตร ประมาณ 10 ไร่ ขุดบ่อรองรับน้ำล้นจากโรงงานทุกบ่อ และจะจ่ายเงินเยียวยาให้

ด้านเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบระบบการระบายน้ำของโรงงาน พบว่ามีคราบน้ำมันเข้มข้นอยู่ในทางระบายน้ำรอบโรงงาน ส่วนสารเคมีที่ยังเหลืออยู่ยังไม่ถูกน้ำฝนชะล้างไหลออกนอกตัวอาคาร พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวนวัตถุสารเคมีในโรงงานด้วย

รมว.อุตสาหกรรม สั่งทุกจังหวัดสำรวจโรงงานเก็บสารเคมี

น.ส.พิมพ์ภัทรา​ วิชัยกุล​ รมว.อุตสาหกรรม​ สั่งการให้แต่ละจังหวัด​สำรวจพื้นที่​โรงงานที่มีความเสี่ยง หลังเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมี​ในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ภายใน​ 20 วัน ก่อนนำรายชื่อเข้าพิจารณาในคณะกรรมการเพื่อหามาตรการเฝ้าระวัง

ส่วนที่โกดังภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรม นำอุปกรณ์มาช่วยสูบน้ำกรดจากบ่อดินหน้าโกดัง 1 ภายในโกดังเก็บสารเคมี ไปใส่ในถังเพื่อนำไปเก็บไว้โกดังที่ 5 เพื่อรอไปกำจัดอย่างถูกต้อง หลังพบว่ามีน้ำกรดเข้มข้นไหลเข้าไปในบ่อดิน เสี่ยงไหลออกสู่พื้นที่สาธารณะหากมีฝนตกลงมา ซึ่งขณะนี้ สามารถดำเนินการสูบน้ำกรดได้แล้ว 70 ถัง

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายนำรถมาช่วยกันลำเลียงถังเก็บเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง โดยจะนำเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมหลังจากนี้ และจะสำรวจพื้นที่อื่น ป้องกันไม่ให้สารเคมีรั่วไหลออกด้านนอก

อ่านข่าว

ไขปมอุณหภูมิลดฮวบ 10 องศาฯ หลังฝนตกพายุถล่ม

กรมวิทย์ฯ พบไข้หวัดใหญ่ชนิด A(H3N2) ระบาดในไทยมากสุด

แกะรอย มหกรรมโชว์กินข้าว 10 ปี กินได้จริงหรือ? ฤาหาทางลง


จยย.บอมบ์ หน้าเขื่อนท่าพระยาสาย นราฯ เจ็บ 4 คน

Tue, 7 May 2024 06:32:06

วันที่ 6 พ.ค.2567 เวลา 21.35 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ได้แก่ อส.อัสรี มีอาการปวดภายในหู แน่นหน้าอก, อส.ฮาฟิต มีอาการปวดศีรษะ หูอื้อ แน่นหน้าอก, น.ส.ซาฮีระห์ มีบาดแผลบริเวณใบหน้ายาว 2 เซนติเมตร และ น.ส.นุรฟาซีลา มีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ และถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณซี่โครงซ้าย โดยส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งปิดกั้นการจราจร ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และชุดพิสูจน์หลักฐานฯ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ทราบว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันดังกล่าวมาจอดไว้ตั้งแต่เมื่อตอนช่วงเย็นก่อนพบค่ำ คาดว่าเป็นคันที่ผู้ก่อเหตุใช้ประกอบระเบิด


หญิง 18 ปี ขี่ จยย.ชนแผงเหล็กตกท่อเก็บสายสื่อสาร อาการสาหัส

Mon, 6 May 2024 11:53:10

วันที่ 5 พ.ค.2567 เมื่อเวลา 23.40 น. ร้อยเวร สภ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนแผงเหล็กจนตกหลุมที่กำลังขุดไว้เพื่อเก็บสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และสายเคเบิล บริเวณหน้าวัดอรัญญเขต ถนนอินทรคีรี ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก จึงประสานหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ และ อปพร.เทศบาลนครแม่สอดไปยังที่เกิดเหตุ

พบหญิง อายุประมาณ18 ปี สวมเสื้อยืดสีขาวแขนยาว กางเกงสั้น ตกลงไปในหลุมอาการสาหัส กับรถจักรยานยนต์ ตกอยู่ในหลุมเช่นกัน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันเปิดไฟส่องสว่างเพื่อช่วยเหลือเอาผู้ได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจากหลุม แต่หลุมค่อนข้างลึก

การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก และใช้เวลาประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนำขึ้นมาได้ โดยในระหว่างช่วยเหลือหญิงเคราะห์ร้ายนั้น เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแลการจราจรโบกรถยนต์ไปมา เกรงว่าจะเกิดอุบัติซ้ำซ้อนขึ้นได้ เนื่องจากแยกดังกล่าวค่อนข้างมืด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทศบาลนครแม่สอดมีการขุดเจาะถนนเป็นหลุมขนาดใหญ่ตลอดทางบนถนนสายประสาทวิถี โดยผู้รับเหมาเอกชนเพื่อนำสายไฟฟ้า สายสื่อสาร และสายเคเบิลลงใต้ถนนตามโครงการสร้างระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ตั้งแต่หน้าวัดดอนไชย จนถึงหน้าวัดอรัญญเขต จึงมีการขุดถนนทำหลุมกว้างหลายจุด บางครั้งทำให้การจราจรติดขัดบ่อยมาก รวมทั้งคนสัญจรไปมาลำบากจากถนนที่ได้รับความเสียหายจากการขุดเจาะ

สำหรับอุบัติเหตุรายนี้ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่า ผู้ขับขี่จักรยานยนต์มาจากเส้นทางสายแม่สอด ตลาดริมเมย กำลังเข้าเมืองผ่านถนนอินทรคีรี เมื่อผ่านหน้าวัดอรัญเขตได้ขับรถชนแผงเหล็กป้องกันคนตกหลุมอย่างแรง ทำให้ทั้งรถ และคนตกลงไปในหลุม ขณะที่บริเวณหลุม และแผงเหล็กไม่มีสัญญาณไฟใดๆ

อ่านข่าว :

ฝากขัง 5 ผู้ต้องหารีดเงินชาวจีน - เร่งตามจับอีก 6 คน

ผู้ว่าการ กฟน.แสดงความเสียใจครอบครัวชายตกท่อ มอบเงินช่วยเหลือ 5 หมื่นบาท

ศาลออกหมายจับ 2 ใน 6 ผู้ต้องสงสัย ร่วมก่อเหตุอุ้มรีดเงินชาวจีน


ตร.เรียกสอบปากคำ "คนใกล้ชิด" เจ้าของบ้านถูกลักทรัพย์ 40 ล้าน

Mon, 6 May 2024 10:37:46

กรณีนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างใน ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี ถูกขโมยทรัพย์มูลค่าวกว่า 40 ล้านบาท เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เข้าเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงและเก็บคราบ DNA ภายในบ้านของนักธุรกิจ

เบื้องต้น ผู้เสียหายพุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิด เนื่องจากรู้ข้อมูลช่องทางการเข้า-ออกภายในบ้าน อีกทั้งยังรู้จุดที่เก็บทรัพย์สินเป็นอย่างดี และที่สำคัญระบบกล้องวงจรปิดภายในบ้านและจุดใกล้เคียงเกิดชำรุด โดยกล้องวงจรปิด 16 ตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในบ้านจุดเกิดเหตุได้ชำรุดมาประมาณ 1 ปีแล้ว จึงไม่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้

อีกทั้งในละแวกใกล้เคียงไม่มีกล้องวงจรปิด เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณริมถนนช่วงหัวโค้ง ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวริมถนน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนลงพื้นที่เข้าตรวจสอบอีกครั้ง และได้เก็บเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่ชำรุดไปตรวจสอบอย่างละเอียด

นางวิรัลพัชร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีตนเองไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เดินทางไปกลับต่างประเทศเป็นประจำ คาดว่าผู้ก่อเหตุจะต้องเป็นคนในอย่างแน่นอน เพราะการเข้าออกประตูหลังบ้านจะต้องใช้เทคนิคพิเศษ เนื่องจากเป็นประตูเหล็ก

สำหรับภายในลิ้นชักมีทรัพย์สินเป็นเงินสด 1 ล้านบาทใส่อยู่ในซองของธนาคาร, แหวนเพชรประมาณ 20 วง มูลค่าวงละกว่า 1 ล้านบาท รวมราคาประมาณ 20 ล้านบาท, ทองคำรูปพรรณรวมกว่า 50 บาท มูลค่าประมาณ 2.1 ล้านบาท, เม็ดหยก 7 เม็ด รวมมูลค่าประมาณ 1.89 ล้านบาท, สร้อยเพชร 7 เส้น รวมมูลค่าราคาประมาณ 14 ล้านบาท และพระเครื่องเลี่ยมทอง ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยรวมประมาณกว่า 40 ล้านบาท

ด้าน พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจชุดปฏิบัติการสายตรวจเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งทันที โดยมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ลายนิ้วมือแฝง ซึ่งผู้เสียหายได้พุ่งเป้าผู้ต้องสงสัยเป็นบุคคลใกล้ชิด โดยหลังจากนี้จะเชิญบุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย จำนวน 17 คน มาสอบถาม เพื่อหาข้อมูลการเชื่อมโยงในคดีและคาดว่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุเร็วๆ นี้

อ่านข่าว

Take-off ไม่ได้! ดีเลย์ 2 ไฟลท์ในคืนเดียว ผู้โดยสารนั่งรอเยียวยาแค่โดนัท

ดอกไม้ทะเลฟอกขาว! โลกร้อนทำทะเลเดือดเสี่ยงฆ่า "ปลาการ์ตูน"

เนทันยาฮูสั่งปิด "อัล จาซีรา" อ้างกระทบความมั่นคงของชาติ


พายุลมแรงพัดป้ายโฆษณา-เสาไฟฟ้าล้มกลางเมืองหาดใหญ่

Sun, 5 May 2024 18:44:38

วันนี้ (5 พ.ค.2567) หลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อน โดยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดการระเบิด

ขณะที่ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณถนนธรรมนูญวิถี ใจกลางเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ถูกพายุฝนลมแรงล้มเสียหาย 10 ต้น และมีรถยนต์ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับได้รับความเสียหายอีก 1 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุมีฝนตกลงมาและเกิดลมกระโชกแรง ทำให้แผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีการติดตั้งไว้ริมถนน ล้มลงมาทับเสาไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เสาไฟล้มตามลงมาด้วยเป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามปกติภายใน 2-3 วัน ขณะที่ พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ระบุว่า จะเร่งตรวจสอบป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีความเสี่ยง เพื่อป้องกันความเสียหายจากพายุลมแรง

อ่านข่าว

"สมุทรสาคร" ประกาศเขตประสบสาธารณภัยไฟไหม้โรงงานกระดาษ

หลายฝ่ายโต้กลับ "อุ๊งอิ๊ง" วิจารณ์ "ธปท."อุปสรรคพัฒนาประเทศ?

แม่มารับแล้ว! "ลูกช้างป่า" ตกบ่อโคลน กลับเข้าโขลงปลอดภัย


"สมุทรสาคร" ประกาศเขตประสบสาธารณภัยไฟไหม้โรงงานกระดาษ

Sun, 5 May 2024 12:12:00

วันนี้ (5 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานกระดาษ ปัญจพล ไฟเบอร์ คอนเทน (สาขาบางปลา) ซึ่งผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกและบรรจุภัณฑ์กระดาษครบวงจร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 30 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งลุกไหม้มาตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

สถานการณ์โดยรอบพบว่าเป็นไปโดยปกติ จุดที่เพลิงลุกไหม้อยู่ลึกเข้าไปหลายร้อยเมตร ซึ่งยังมีรถดับเพลิงจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทยอยเข้าพื้นที่เป็นระยะ

อ่านข่าว : ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิลกระดาษ จ.สมุทรสาคร เร่งคุมเพลิง 

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ร.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ประชุมสรุปสถานการณ์ล่าสุดร่วมกับอุตสหากรรมจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า แสงเพลิงเบาบางลงและสามารถควบคุมไว้ได้ร้อยละ 60 ขณะที่เชื้อเพลิงเป็นกระดาษกว่า 20,000 ตัน เจ้าหน้าที่ได้แบ่งโซนไว้ทั้งหมด 3 จุด เป็นโรงกระดาษ โรงถ่านหิน และบอยล์เลอร์ หรือโรงต้ม แต่ละจุดใช้รถน้ำและรถแบ็กโฮประจำไว้อย่างละ 2 คัน

ส่วนอุปสรรคในการทำงาน ขณะนี้มีรถสูบน้ำระยะไกลขัดข้อง 1 คันจากทั้งหมด 3 คัน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซม โดยจุดที่น่าเป็นห่วงในชาวงแรกคือโรงต้มของโรงงาน ที่ใช้ถ่านหินผลิตเชื้อเพลิงเพื่อทำกระบวนการกับกระดาษ แต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 พ.ค.

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่องและตัดสายพานลำเลียงถ่านหิน ซึ่งเป็นการตัดความร้อนและเชื้อเพลิงให้อุณหภูมิเย็นลง คาดว่าเพลิงจะไม่ลุกลามออกนอกพื้นที่ และอุตสาหกรรมจังหวัดประเมินว่ายังไม่มีจุดเสี่ยงต่อการระเบิด เพราะเชื้อเพลิงเป็นกระดาษ ไม่มีสารเคมีอันตราย

ร.ต.สัณฐิติ กล่าวอีกว่า ข้อกังวลขณะนี้คือลูกไฟที่อาจกระเด็นออกไปในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเทศบาลตำบลคอกกระบือ ติดตามเฝ้าระวังชุมชนใกล้เคียงที่ห่างออกไป 800 เมตร ซึ่งยังไม่พบว่ามีกลิ่นควันไหม้ พร้อมตรวจวัดค่าสารพิษในอากาศก็พบว่ายังไม่เกินค่ามาตรฐาน

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องสับเปลี่ยนกำลังในช่วงกลางวันและช่วงเย็น เนื่องจากมีความเหนื่อยล้าจากการทำงาน อีกทั้งยังมีทรัพยากรจำกัด ซึ่งในช่วงค่ำวันนี้ (5 พ.ค.) จะมีการประชุมอีกครั้ง คาดว่าหากไม่มีอุปสรรคใดๆ จะสามารถดับไฟได้สนิทภายในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ค.)

ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ต้องรอให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานไปประกอบการสอบสวนของตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ภาพจาก ปภ.สมุทรสาคร

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประกาศให้พื้นที่เมืองสมุทรสาคร เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตให้การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย และในวันนี้ (5 พ.ค.) จะเสริมกำลังรถดับเพลิงจากทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงเข้าไปช่วยดับไฟ

อ่านข่าว

แจ้งความ "วิน โพรเสส" เพิ่ม ซุกสารเคมีกลางเมือง "ระยอง"

อธิบดี กพร. ยืนยันขน "กากแคดเมียม" เข้าโกดังพักเป็นไปตามมาตรฐาน


ไฟไหม้โรงงานรีไซเคิลกระดาษ จ.สมุทรสาคร เร่งคุมเพลิง

Sat, 4 May 2024 12:51:00

วันนี้ (4 พ.ค.2567) เมื่อเวลาประมาณ 09.28 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กองกระดาษภายในพื้นที่ของบริษัท ปัญจพลไฟเบอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด (สาขาบางปลา) ซึ่งตั้งอยู่ถนน เศรษฐกิจ 1 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์เข้าดับเพลิง

อ่านข่าว : 15 ชั่วโมง ไฟไหม้โรงงานกระดาษ จ.สมุทรสาคร ยังดับไม่ได้

ที่เกิดเหตุเป็นบริษัทผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก ซึ่งเป็นเชิื้อเพลิงอย่างดี ทำให้การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นำรถดับเพลิงกว่า 16 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการควบคุมเพลิง และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ได้เคยเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษในพื้นที่ ม.6 ต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 15 ชม.จึงจะสามรถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ 

 

อ่านข่าว

ถึงตากแล้ว! กากแคดเมียมชุดแรก จากสมุทรสาคร-กทม. 258 ตัน

"พบฟอสฟีน-ซัลเฟอร์ไดออกไซด์" โกดังไฟไหม้ภาชี 

กมธ.อุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัย “ไฟไหม้โรงงาน” ซ้ำซาก

 

 

 

 


พายุพัดเครนล้มทับคนงานเสียชีวิต 3 คน จ.บึงกาฬ

Sat, 4 May 2024 12:31:00

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.2567) เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมแรง และลูกเห็บตกในพื้นที่ภาคส่งผลกระทบประชาชนหลายพื้นที่

"บึงกาฬ" ลมพัดเครนล้มทับคนงานเสียชีวิต 3 คน

จ.บึงกาฬ หลังจากเกิดพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บ้านแพง หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ แรงลมพัดให้คาสะพานลอยหลุดตกลงมาขวางถนน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และปิดการใช้สะพานชั่วคราว เพื่อรอประเมินความแข็งแรงอีกครั้ง

แรงลมพัดให้คาสะพานลอยหลุดตกลงมาขวางถนน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และปิดการใช้สะพานชั่วคราว

แรงลมพัดให้คาสะพานลอยหลุดตกลงมาขวางถนน เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และปิดการใช้สะพานชั่วคราว

ส่วนที่ แคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ คนงาน 3 คน เข้าไปหลบพายุฝน แต่ลมที่พัดแรงทำให้รถเครนที่จอดอยู่ ล้มลงมาทับทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตทันที หน่วยกู้ภัยใช้เวลานานกว่า 1 ชม.จึงสามารถนำร่างออกมาได้

แคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ คนงาน 3 คน เข้าไปหลบพายุฝน แต่ลมที่พัดแรงทำให้รถเครนที่จอดอยู่ ล้มลงมาทับทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตทันที

แคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ คนงาน 3 คน เข้าไปหลบพายุฝน แต่ลมที่พัดแรงทำให้รถเครนที่จอดอยู่ ล้มลงมาทับทำให้ทั้ง 3 คนเสียชีวิตทันที

เช่นเดียวกับที่ จ.หนองบัวลำภู เกิดพายุฝนและลูกเห็บลง พัดหลังคาบ้านเรือน ต้นไม้หักโค่นตามถนน และต้นไม้หักโค่นใส่เสาไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับ ในพื้นที่ 4 อำเภอ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 750 หลังคาเรือนสายไฟฟ้าขาด ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

พายุฤดูร้อนพัดกำแพงบ้านพังทับเสียชีวิต 1 คน จ.ขอนแก่น

ที่ จ.ขอนแก่น เกิดพายุลูกเห็บ และลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่เขต อ.เมืองขอนแก่น ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความเสียหายอีกครั้ง พบผู้เสียชีวิต 1คน ถูกกำแพงล้มทับอยู่ในบ้าน

บ้านท่าช้าง ต.หนองตูม อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พายุได้พัดเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟฟ้าดับและน้ำประปาไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่เมื่อคืน

บ้านท่าช้าง ต.หนองตูม อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พายุได้พัดเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟฟ้าดับและน้ำประปาไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่เมื่อคืน

ส่วนที่บ้านท่าพระทราย ต.โคกสี อ.เมืองขอนแก่น บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ขณะที่บ้านท่าช้าง ต.หนองตูม พายุได้พัดเสาไฟฟ้าล้ม ทำให้ไฟฟ้าดับและน้ำประปาไม่สามารถใช้การได้ตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้ชาวบ้านกังวลว่า หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้ามาแก้ไขเร่งด่วน จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำอุปโภคบริโภคทั้งตำบล

อ่านข่าว 

สภาพอากาศวันนี้ ทั่วไทย อากาศร้อนถึงร้อนจัด ระวังฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง 

วิกฤต "ปะการังฟอกขาว" ในยุคทะเลเดือด 

พายุฤดูร้อนถล่ม "แพร่" ไฟดับ-ลมแรง เตือนรับมือถึง 7 พ.ค.  

 

 

 

 

 

 


พลุระเบิด! พิกัดหนองแซงเสียชีวิตเบื้องต้น 1 คน

Fri, 3 May 2024 18:19:00

วันนี้ (3 พ.ค.2567) พ.ต.ท.บัญชา สร้อยอยู่ สารวัตรสอบสวน สภ.หนองแซง รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่บ้านเลขที่ 5/2 หมู่ที่ 2 ต.หนองสีดา อ.หนองแซง จ.สระบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เป็นชายอายุ 62 ปี มีอาชีพรับทำพลุ สภาพถูกไฟคลอกทั้งตัว และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล 

เบื้องต้นมีรายงานว่าบ้านหลังดังกล่าว รับจ้างทำพลุ เพื่อเป็นรายได้เสริม โดยสภาพที่เกิดเหตุ เสียหายจากแรงระเบิดทั้งฝาผนังบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ และเศษพลุที่กระจัดกระจายทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่นำรถน้ำมาฉีดพ่น

ขณะเกิดเหตุพลุระเบิดภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุดสามารถบันทึกภาพไว้ได้พบกลุ่มควันพวยพุ่งเป็นวงกว้าง และอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ

ขณะที่สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย โพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าผู้บาดเจ็บกำลังประกอบพลุสี อยู่ด้านนอกบ้านซึ่งมีผ้าพลาสติก หรือสแลนคุมอยู่ทำเป็นหลังคา ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิดได้วิ่งมาดูพบว่า ชายคนดังกล่าวกระเด็นอยู่ห่างจากจุดที่ประกอบประมาณ 10 เมตร จึงได้รีบนำส่งโรงพยาบาลหนองแซง เสียชีวิตในเวลาต่อมา ได้หน่วยดับเพลิงใกล้เคียงระงับเหตุเพลิงไหม้ที่กำลังติดอยู่ที่กอไผ่ และไม้อาคาร

 

 

 


"ลำน้ำทา" แล้งหนัก อปท.ต้องขนน้ำแจกชาวบ้านทุกวัน

Fri, 3 May 2024 11:24:00

เป็นประจำทุกวันที่เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน ต้องใช้รถบรรทุกน้ำไปเติมแทงค์น้ำ ตามหมู่บ้านต่างๆ 15 หมู่บ้านในเขตรับผิดชอบ ก่อนจ่ายน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ เนื่องจากขณะนี้ลำน้ำแม่ทา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสายหลักสำหรับผลิตน้ำประปาแห้งขอด

น.ส.พรทิพย์ สกุลรัตน์ ชาวบ้าน บอกว่า แม้จะสูบขึ้นมาได้แต่น้ำขุ่นจนใช้การไม่ได้ ทำให้ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อน

ด้านนายไสว คำชมภู เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวตำบลทาปลาดุก บอกว่า กลุ่มผู้เลี้ยงวัวนม ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ต้องขอสนับสนุนน้ำมาช่วยให้วัวได้ดื่มกิน เพราะขณะนี้ขาดแคลนน้ำ ส่งผลกระทบวัวให้น้ำนมน้อยและมีต้นทุนค่าอาหารแพงขึ้น เพราะต้นข้าวโพดที่ปลูกไว้แห้งตายหมด

สวาท เพียรพนัสสัก นายกเทศมนตรีตำบลทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน

สวาท เพียรพนัสสัก นายกเทศมนตรีตำบลทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน

นายสวาท เพียรพนัสสัก นายกเทศมนตรีตำบลทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน บอกว่า การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้คือ ต้องใช้รถขนน้ำไปส่งตามจุดที่ผู้นำหมู่บ้านกำหนด ก่อนจะบริหารจัดการแจกจ่ายให้ชาวบ้านได้ใช้ แต่ยอมรับว่า มีข้อจำกัดเรื่องประมาณและมีรถเพียงคันเดียว จึงส่งน้ำได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของชาวบ้าน

สำหรับพื้นที่ ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน มี 15 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 8 พันคน ใช้แม่น้ำทา สำหรับผลิตน้ำประปา และใช้ทำการเกษตร แต่ปีนี้น้ำทาแห้งขอด ซึ่งชาวบ้านบอกว่าไม่เป็นเกิดเหตุการณ์ลักษณ์นี้มาก่อน ขณะนี้จึงได้รับความเดือดร้อน ต้องใช้น้ำอย่างประหยัด งดปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก และรอคอยให้ฝนตกลงมาเพียงอย่างเดียว

เกษม แซ่กือ ผู้สื่อข่าวอาวุโสไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ


มีผลวันนี้ “คำรณวิทย์” พ้นตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี

Fri, 3 May 2024 11:06:00

วันนี้ (3 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใบลาออกของ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มีผลในวันนี้ หลังจาก พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ยื่นไปเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.2567)

อ่านข่าว : มีผลวันนี้ “คำรณวิทย์” พ้นตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้เหตุผลของการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งว่า เนื่องจาก 1.ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาน้ำหลาก เพื่อที่หาแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาเรื่องน้ำหลาก ในกลุ่มจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ ลงมา สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี พบว่า

ในช่วงที่เหลือเวลาอยู่ 6 เดือน ก่อนหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค.ปีนี้ พวกตนไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย เพราะจะต้องอยู่ในกติกาของการเลือกตั้ง เบิกจ่ายเงินไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนหมดวาระ พวกเราจึงตัดสินใจด้วยกัน

ในฐานะประธานสมาพันธ์นายก อบจ.ภาคกลาง ทุกคนจึงมีความเห็นว่า หากเราช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ ก็จะไม่อยู่ เพราะพวกเราคำนวณแล้วว่า ปีนี้น้ำเยอะแน่นอน จึงต้องลาออก โดยได้ตัดสินใจลาออกทั้ง 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี นครสวรรค์ และอ่างทอง ส่วนจังหวัดอื่น ๆ เดี๋ยวคงตามมาอีก เพราะเมื่อเข้าสู่ 180 วัน จะเริ่มระวังตัวกัน และข้อกฎหมายยุบยิบ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่ 2 คือ เรื่องวัคซีน ที่ฉีดให้พี่น้องประชาชนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ตนได้บทเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 เราได้นำซิโนฟาร์มมาฉีดให้พี่น้องประชาชน เป็นจังหวัดเดียวเลยที่สู้มาตลอด แล้วนำร่องมีการตั้งโรงพยาบาลสนาม

เมื่อมีการระบาดไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี เป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่สุขภาพเขตที่ 4 ตนต้องขอบคุณสาธารณสุขจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จนมีการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด ขณะนี้มีการระดมฉีด ซึ่งทางสาธารณสุขคาดว่า จะระบาดอย่างรุนแรงที่สุด ในช่วงต้นฤดูฝน จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ตนต้องลาออกก่อน

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ 3 คือเรื่องงานพระราชพิธี งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในการจัดแข่งเรือยาวประเพณี ที่เป็นประเพณีของ จ.ปทุมธานี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 พระราชทานถ้วยรางวัลถึง 3 ถ้วย สมเด็จพระราชินีอีก 1 ถ้วย เราจัดมาแล้ว 2 ปี กำหนดไว้วันที่ 5 ธ.ค.

หากยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ก็จัดงานอะไรไม่ได้ เพราะกำลังจะครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค. ทั้งที่งานที่เป็นหน้าตาของปทุมธานีจะเสียหายได้ เพราะภายในงานไม่ได้มีเพียงแข่งเรือยาวอย่างเดียว แต่จะมีการแสดงสินค้าโอท็อป เศรษฐกิจจะต้องหลั่งไหลเข้ามาด้วย

ส่วนประเด็นสุดท้าย เรื่องการเลือกตั้ง สว.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากตนเป็นประธานสมาพันธ์นายก อบจ.ภาคกลาง 25 จังหวัด การเลือกตั้ง สว.ครั้งนี้มีกติกายุบยิบ กติกาที่ไม่เคยมีมาก่อน ประชาชนไม่ได้เลือก สว.ไม่ได้มาจากประชาชน สว.จะมาจากการเลือกกันเอง ของคนบางกลุ่ม

มีหลายคนที่ประสานมาหาผม เนื่องจากผมมีสายสัมพันธ์กับประธานสมาพันธ์อีก 3 ภาค เพื่อที่จะให้ช่วยเหลือในการล็อบบี้ได้ กฎหมายมันแรงมาก ถึงขนาดตัดสิทธิตลอดชีวิต และมีจำคุก 1-10 ปี หากใครที่มีส่วนกับการฮั้ว ผมจึงคิดว่าจะไม่ยุ่งกับการเลือกตั้งนี้ ขอวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจริง ๆ

หลังจากการลาออกมีผลในวันที่ 3 พ.ค. จะมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน ตนก็จะลงเลือกตั้งอีก หรือหากเป็นคนอื่น เขาก็จะบริหารและใช้เวลาเต็มที่ และเริ่มต้นใหม่ในการที่จะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป ไม่ต้องมากังวลกับอะไร เหล่านี้คือเหตุผลที่ผมลาออก ที่ทำเพื่อประชาชน

อ่านข่าว : ชื่นชม! 3 พนักงานไทย สมายล์ โบ้ทช่วยคนตกน้ำเจ้าพระยา

ปิดต่อ! รพ.ภาชี มลพิษในอากาศยังสูง - เปิด รพ.สนามวัดโคกม่วง

นายกฯ ไม่ห่วงปม "พิชิต" เตรียมจัดรายการ TV โชว์ผลงานรัฐบาล


ปิดต่อ! รพ.ภาชี มลพิษในอากาศยังสูง - เปิด รพ.สนามวัดโคกม่วง

Fri, 3 May 2024 08:23:48

วันที่ 2 พ.ค.2567 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมระบุว่า ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับมือเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยปิด รพ.ภาชี ซึ่งอยู่ห่างที่เกิดเหตุเพียง 600 เมตรและย้ายผู้ป่วย 35 คนออกนอกพื้นที่ โดยให้กลับบ้านและบางส่วนส่งต่อไป รพ.ท่าเรือ, รพ.สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสนมหาเถร) และ รพ.อุทัย

พร้อมทั้งเปิด รพ.สนาม ที่วัดโคกม่วง ซึ่งอยู่ด้านเหนือลม ให้บริการผู้ป่วยนอกและฉุกเฉินเบื้องต้น ซึ่งในวันที่ 2 พ.ค.มีผู้รับบริการ 28 คน เป็นผู้ได้รับผลกระทบ 9 คน (แสบตา/ระคายคอ) ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีนัดกับโรงพยาบาล 80 คนได้ใช้ Health Rider จัดการส่งยาให้

อ่านข่าว : เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา 

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จัดทีมประเมินผลกระทบทางร่างกาย 7 ทีม ออกเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชนในรัศมี 1 กิโลเมตร จำนวน 599 คน 109 หลังคาเรือน พบมีอาการระคายเคืองตา เวียนศีรษะ แต่ไม่รุนแรง 74 คน โดยจะติดตามตรวจเอกซเรย์ปอดทั้งหมดเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบ ส่วนการคัดกรองด้านสุขภาพจิต พบมีความเครียดระดับน้อย 42 คน ปานกลาง 9 คน และเครียดมาก 3 คน เจ้าหน้าที่ได้ให้การดูแล

สำหรับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคารของ รพ.ภาชี พบว่ายังมีค่าสารมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้สูงกว่าเกณฑ์ จึงต้องปิดให้บริการไปก่อน และให้ติดตามตรวจวัคคุณภาพอากาศทุกวันจนกว่าจะมั่นใจในความปลอดภัยก่อนกลับมาเปิดให้บริการ

อ่านข่าว : "พบฟอสฟีน-ซัลเฟอร์ไดออกไซด์" โกดังไฟไหม้ภาชี

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ : กระทรวงสาธารณสุข

ประเมินสุขภาพ ปชช. อาการเบื้องต้นระดับสีเขียว

ขณะที่ นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยส่งทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 4 สระบุรี ปฏิบัติการเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานระดับจังหวัด ประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพประชาชนในชุมชน และสำรวจเฝ้าระวังด้านสุขาภิบาล สุขอนามัยและอนามัยสิ่งแวดล้อม ภายในศูนย์อพยพและโรงพยาบาลสนาม

ซึ่งผลการตรวจวัดคุณภาพของกรมควบคุมมลพิษ พบสารเคมีอันตรายที่ปนมากับควันไฟ ได้แก่ อะคริโลไนไตรล์ ฟอสฟีน ฟอสจีน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ พบค่าสูงกว่าปกติเล็กน้อย เป็นสารเคมีอันตรายต่อสุขภาพ กระจายอยู่โดยรอบชุมชนในระยะ 2.3 - 9.5 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับทิศทางลม ทำให้ประชาชนเกิดอาการทางสุขภาพอย่างรุนแรงได้

กรมอนามัยสำรวจกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และประเมินความเสี่ยงสุขภาพจากการรับสัมผัสควันไฟ เขม่า ขี้เถ้าและฝุ่นละอองที่มาจากการเผาไหม้ในชุมชนโดยรอบโกดังที่เกิดไฟไหม้ พบว่ามีประชาชนได้รับผลกระทบในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.ภาชี ต.โคกม่วง และ ต.หนองน้ำใส มีผู้เข้ารับบริการใน รพ.สนาม 28 คน พบประชาชนมีอาการแสบตา ระคายเคืองคอจากการสูดดมเหม็นกลิ่นสารเคมีจากควันไฟ 9 คน และเบื้องต้นมีผู้เข้าพักในศูนย์อพยพ 26 คน บางส่วนกลับบ้านได้แล้ว เนื่องจากมีความปลอดภัย

อ่านข่าว : ปทส.จ่อออกหมายจับ "ผู้เช่าโกดังภาชี" พบพิรุธไฟไหม้สารเคมีซ้ำ

นอกจากนี้ยังสำรวจและประเมินการจัดการด้านสุขาภิบาลภายในศูนย์อพยพและโรงพยาบาล ประเมินคุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้ ตรวจสอบคุณภาพอากาศและการระบายอากาศ ประเมินสุขลักษณะส้วม และการจัดการขยะภายในศูนย์อพยพและ รพ.สนาม เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงโรคระบาดและลดความแออัดของผู้อพยพ

ภาพ : กรมอนามัย

ภาพ : กรมอนามัย

ผลการประเมินพบว่า น้ำใช้เป็นน้ำประปาหมู่บ้านและประปาภูมิภาคอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีความปลอดภัย น้ำดื่มเป็นน้ำบรรจุขวดได้มาตรฐาน ส่วนอาหารเป็นอาหารบรรจุกล่อง ยังไม่มีการเปิดครัวภายในศูนย์อพยพ จากการประเมินพบว่าอาหารดังกล่าวเป็นอาหารปรุงสุกใหม่ ไม่มีกลิ่นบูด ไม่มีสีที่ผิดปกติ จึงมีความปลอดภัย ส้วมมีจำนวนเพียงพอและมีความปลอดภัย แต่ต้องปรับปรุงเรื่องความสะอาด

ศูนย์อพยพมีลักษณะเป็นอาคารเปิดโล่ง หน้าต่างกว้าง มีพัดลมระบายอากาศ สามารถระบายอากาศได้ดี จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศมีค่าไม่เกินค่ามาตรฐาน ปลอดภัย ประกอบกับจำนวนผู้อพยพมีไม่มากนัก ยังไม่มีผู้พักค้างในศูนย์อพยพ จึงไม่มีความแออัดและมีการระบายอากาศโดยรอบที่ดี

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับวิธีการสังเกตสิ่งผิดปกติ หลีกเลี่ยง การป้องกันตนเองจากควันพิษ สารเคมีอย่างง่ายด้วยการสวมหน้ากากป้องกันสารพิษ และต้องอพยพออกจากบ้านทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งเตือน หรือหากอยู่ในพื้นที่ไม่เสี่ยงมากยังไม่ได้รับผลกระทบ ให้รีบปิดประตู หน้าต่าง ห้ามออกนอกบ้าน เพื่อลดการสูดดมและสัมผัสสารเคมีจากควันไฟ

อย่างไรก็ตาม กรมอนามัยยังขอให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้อนุญาตประกอบการ เร่งทำการแจ้งให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ครอบครองอาคาร โรงงาน โกดังสะสมสารเคมี ตรวจตราและตรวจสอบระบบทั้งหมด ทั้งการผลิต ระบบไฟฟ้า ตรวจสอบเครื่องจักร เครื่องมือ ท่อก๊าซ ห้องเก็บสารเคมีที่จะเป็นต้นเหตุของการเกิดไฟไหม้ ระเบิด หรือสารเคมีรั่วไหล เพื่อสามารถหาทางป้องกัน ซ่อมแซม แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ชำรุด ให้มีสภาพที่ใช้งานเพื่อความปลอดภัย

อีกทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องกำกับ ควบคุม ติดตามการดำเนินการของผู้ประกอบการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องหาวิธีแจ้งเตือนประชาชนให้ป้องกันตนเองและอพยพได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงผลกระทบที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพประชาชน

อ่านข่าว

แล้งจัด! เกษตรกรสุดช้ำ "ลูกทุเรียน" ร่วงเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

สถาบันวัคซีน แจงเกิดภาวะลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ จากวัคซีน AstraZeneca มีน้อย

ร้อนจัด-น้ำแล้ง "ปลาตายเกลื่อน" อ่างเก็บน้ำเวียดนาม


แล้งจัด! เกษตรกรสุดช้ำ "ลูกทุเรียน" ร่วงเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

Fri, 3 May 2024 07:17:22

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 ลูกทุเรียนที่ร่วงหล่นจากต้นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ต้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้คำแนะนำแก่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในพื้นที่ อ.ครบุรี ให้รับมือและดูแลทุเรียน ในช่วงสภาพอากาศร้อนจัดและแล้งยาวนาน

เนื่องจากพบว่าทุเรียนของเกษตรกรในพื้นที่ ที่มีอยู่กว่า 2,000 ไร่ ตอนนี้กำลังได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสมานานหลายสัปดาห์ ทำให้ลูกทุเรียนร่วงหล่นเสียหายไปแล้วกว่าร้อยละ 40 นอกจากนี้ ยังเกิดปัญหาเพลี้ยและแมลงศัตรูของทุเรียน บุกเข้าทำลายต้นทุเรียนเสียหาย

เจ้าของสวนทุเรียน บอกว่า ปลูกทุเรียนเอาไว้ 3 ไร่ จำนวนกว่า 100 ต้น แต่อากาศที่ร้อนจัดและมีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียสมานานหลายสัปดาห์แล้ว ทำให้ทุเรียนที่กำลังติดลูก ร่วงหลุดไปเกือบครึ่ง เพราะอากาศร้อนจัด

สำนักงานเกษตรอำเภอครบุรี ระบุว่า พื้นที่ อ.ครบุรี มีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนกว่า 3,000 ไร่ เกษตรกรผู้เพาะปลูกประมาณ 322 ราย สร้างเม็ดเงินเข้าพื้นที่ปีละกว่า 100 ล้านบาท แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดในปีนี้ คาดว่า ผลผลิตทุเรียนจะลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ซึ่งอาจจะทำให้เม็ดเงินที่ควรจะได้จากการจำหน่ายทุเรียนปีนี้ หายไปเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว

อ่านข่าวอื่น :

"ก้าวไกล" ไม่กังวลถูกยุบพรรค "ชัยธวัช" บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว

จับกระแสการเมือง 2 พ.ค.67 : "ชลน่าน" จากใจคนช้ำ "เศรษฐา" นำทัพ รมต.ป้ายแดง-คนเดิมเริ่มงาน

ส่วนที่ ต.กระดังงา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม เจอปัญหาคล้ายกัน โดยต้นทุเรียนที่เพิ่งปลูกได้ 3 ปี ยืนต้นตายจำนวนมาก แม้จะพยายามให้น้ำทั้งเช้าทั้งเย็น แต่ก็สู้สภาพอากาศที่ร้อนจัดไม่ไหวจนต้นแห้งตายหมด เจ้าของสวน บอกว่า ต้องยอมขาดทุนเพราะสู้กับอากาศร้อนและแล้งไม่ไหว

ส่วนเกษตรกรชาวสวนทุเรียนบ้านถ้ำธนาคาร ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ซึ่งเป็นสวนทุเรียน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ของกระบี่ ติดตั้งเครื่องมือวัดความชื้น ภายในสวนทุเรียน เพื่อตรวจสอบความชื้นของอากาศในช่วงหน้าแล้ง หากความชื่นต่ำกว่าเกณฑ์ จะเปิดระบบให้น้ำต้นทุเรียน

นายสุริยา จินพล เกษตรกรชาวสวนทุเรียน เปิดเผยว่า หน้าแล้งปีนี้ อากาศร้อน อุณหภูมิสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขอด บ่อน้ำบาดาล ปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขาดน้ำไปรดต้นทุเรียนที่กำลังออกดอกติดลูก ดอกแห้งเหี่ยว ผลร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ปีนี้ คาดว่าผลผลิตทุเรียนบ้านทะเลหอยลดลง จากจำนวนรวมกว่า 1,300 ตัน ลดเหลือประมาณ 500-700 ตันเท่านั้น

อ่านข่าวอื่น :

จ่อเปิด 2 โกดัง "จำนำข้าว" ภูมิธรรม ดันขายข้าวเก่า 10 ปี ยังกินได้

ตัวแรก ย้าย "พลายไข่นุ้ย" ตัวตึงกรุงชิง เข้าศูนย์บริบาลช้างป่า


ป.ป.ช.ขอนแก่น เปิดเบื้องหลังจับ รอง ผอ.รร.เก็บแป๊ะเจี๊ยะ

Thu, 2 May 2024 12:40:44

หลังจาก เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ขณะเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง 10,000 บาท เพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา โดยนัดมอบเงินในห้องทำงานในโรงเรียน เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

วันนี้ (2 พ.ค.2567) นายธีรัตน์ บางเพ็ชร รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นของการจับกุมครั้งนี้ เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนในระบบติดตามตรวจสอบการทุจริตและการแจ้งเบาะแส ของเว็บไซต์ สำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา และได้พบกับผู้ร้องเรียน ในวันที่ 25 เม.ย. ก่อนจะวางแผนจับกุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้เสียหายให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช.ว่า ทางโรงเรียนดังกล่าวได้เรียกรับเงินมา 2 จำนวน คือ 10,000 บาท และ 20,000 บาท โดยดูจากผลการทดสอบการเรียนของเด็กนักเรียนที่ย้ายมา ถ้าเด็กอ่านออกเขียนได้จะเรียกเก็บ 10,000 บาท หากอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ หรือได้เล็กน้อย ก็จะถูกเรียกเก็บเพิ่มขึ้นคือ 20,000 บาท

ซึ่งลูกของผู้เสียหายผ่านเกณฑ์อ่านออกเขียนได้ จึงได้จ่าย 10,000 บาท แต่เมื่อกลับไปตรวจสอบประกาศของโรงเรียนกลับพบว่า ไม่มีเงินค่าย้ายโอน และไปสอบถามเพื่อนบ้าน บอกว่า เคยพาหลานไป แต่ไม่ได้เสียค่าย้ายโรงเรียน เมื่อตรวจสอบลงลึกไปอีกก็พบว่า โรงเรียนไม่ได้มีประกาศว่า จะเก็บค่าธรรมเนียมในจำนวนนี้ เมื่อไปดูเรื่องเงินบริจาค โรงเรียนก็ไม่ได้กำหนดว่า ต้องบริจาคเท่าไหร่ จึงเชื่อได้แน่ว่า ถูกรับเรียกอย่างไม่เป็นธรรม จึงเป็นที่มาของการจับกุมรอง ผอ.รร.

นายธีรัตน์กล่าวต่อว่า ช่วงที่เข้าไปจับกุมรอง ผอ.คนดังกล่าว ในห้องทำงาน พบสมุดบันทึกนักเรียนที่ย้ายเข้ามา ตรวจสอบพบว่า มีรายชื่อนักเรียนแต่ละชั้นปี ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ที่ย้ายเข้ามา เป็นรายชื่อที่จ่ายเงินแล้วทั้งหมดกว่า 70 คน ดูจากยอดบันทึกมีตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท ในขณะที่เข้าจับกุมพบเงินแป๊ะเจี๊ยะวางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าผู้บริหารคนนี้ เบื้องต้นรอง ผอ.รร. คนดังกล่าวยอมรับว่ารับเงินจริง จึงเก็บเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ที่สภ.เมืองขอนแก่น

สำหรับพฤติการณ์ก็เหมือนการรับสมัครทั่วไป เหมือนการสอบเข้า การโอนย้าย มีระเบียบอยู่แล้วว่า ต้องดำเนินการอย่างไร ก็มีเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเข้ามาช่วยกัน หลังจากประเมินนักเรียนเสร็จ จะมีการให้คะแนน และให้ผู้ปกครองถือใบประเมินไปพบกับผู้บริหาร

ในการแจ้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะแจ้งในห้องผู้บริหาร ไม่ได้มีการบอกผู้ปกครองก่อน ซึ่งความจริงแล้ว ค่าเทอมของเด็กทั่วไป ป.1-6 อยู่ที่ 2,500 บาท และเงินประกัน 200 บาท รวมเป็น 2,700 บาท แต่ค่ารับย้ายจะไม่ได้บอกอะไรไว้เลย เพราะระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการจะให้เป็นอำนาจของโรงเรียนเป็นผู้ประกาศค่าธรรมเนียม แต่ครั้งนี้โรงเรียนไม่ได้ประกาศ ผู้ปกครองจึงคิดว่าค่าธรรมเนียมไม่น่าจะมี เมื่อถูกเรียกเก็บจึงคิดว่าไม่เป็นธรรม

ส่วนการดำเนินการหลังจากนี้ รรท.ผอ.ป.ป.ช.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ตอนนี้อำนาจการสอบสวนอยู่ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อครบ 30 วัน ก็ต้องส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งความผิดในลักษณะนี้จะเข้าข่ายมาตรา 149 เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ กับมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

“ปัญหาการรับเงินแป๊ะเจี๊ยะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะใน จ.ขอนแก่น โรงเรียนดังๆ ทั่วประเทศมีแทบทั้งสิ้น ไม่ใช่เฉพาะเงินแป๊ะเจี๊ยะนักเรียน การซื้อขายตำแหน่ง การโยกย้าย ทุกอย่างมีการจ่ายเงินแทบทั้งสิ้น”

อ่านข่าว : สั่งพักราชการ รอง ผอ.รร.ดังขอนแก่น เรียกรับ "แป๊ะเจี๊ยะ" พร้อมสอบวินัยร้ายแรง

สั่งย้ายแล้ว "รอง ผอ.รร." เก็บแป๊ะเจี๊ยะ เร่งสรุปผลสอบข้อเท็จจริง

รวบ "รอง ผอ.โรงเรียน" จ.ขอนแก่น เรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ แลกให้เด็กเข้าเรียน


สั่งพักราชการ รอง ผอ.รร.ดังขอนแก่น เรียกรับ "แป๊ะเจี๊ยะ" พร้อมสอบวินัยร้ายแรง

Thu, 2 May 2024 09:38:00

วันนี้ (2 พ.ค.2567) นายอารยันต์ แสงนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 เปิดเผย กรณีรองผู้อำนวยการสถานศึกษาในสังกัด ถูกกล่าวหาเรียกรับเงิน เพื่อให้นักเรียนเข้าเรียนหรือแป๊ะเจี๊ยะ ว่า ล่าสุดได้ออกคำสั่งพักราชการผู้ถูกกล่าวหา พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้ว

การสอบสวนวินัยร้ายแรงครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ร่วมกับตำรวจ เข้าจับกุม รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ขณะเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง นักเรียนชั้น ป.3 จำนวนเงิน 1 หมื่นบาท เพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา โดยนัดมอบเงินในห้องทำงานส่วนตัวในโรงเรียน เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมาทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และในวันที่ 1 พ.ค.คณะกรรมการฯ มีความเห็นว่า กรณีดังกล่าวมีมูลตามพยานหลักฐาน จากกระบวนการการดำเนินการของ ป.ป.ช.

เชื่อได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรง และต้องพักราชการไปจนกว่า การสอบสวนวินัยจะแล้วเสร็จ ซึ่งต้องดำเนินควบคู่ไปคดีอาญา ระหว่างนี้ รอง ผอ.โรงเรียน คนนี้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้รับเงินเดือน

อ่านข่าว : "เศรษฐา" เตรียมนำ ครม.ใหม่ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ 3 พ.ค.นี้

สั่งย้าย-สอบข้อเท็จจริง ผอ.รร.ยักยอกเงินออม นร. พบมีมูล

กกต.แจงยิบกฎ-กติกาขั้นตอนเลือก 200 สมาชิกวุฒิสภาชุดที่ 13


สั่งย้าย-สอบข้อเท็จจริง ผอ.รร.ยักยอกเงินออม นร. พบมีมูล

Thu, 2 May 2024 08:41:59

กรณีข้อร้องเรียนว่าผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ยักยอกเงินออมนักเรียนกว่า 300,000 บาท ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากผู้ใหญ่บ้าน ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามพูดคุยกับ ผอ.คนดังกล่าวมาตลอดและรับปากว่าจะคืนเงินให้ แต่เมื่อทวงถามกลับบ่ายเบี่ยงมา ทำให้ชาวบ้าน 3 หมู่บ้านตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ และไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้แก้ปัญหาให้

ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยอีกว่า แม่ครัวที่รับผิดชอบทำอาหารกลางวันนักเรียน ก็ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ ผอ.ไม่จ่ายเงินอาหารกลางวัน ซึ่งแม่ครัวได้ออกเงินไปก่อนกว่า 70,000 บาท รวมทั้งยังมีกรณีงบก่อสร้างโดมที่ไม่โปร่งใส

ล่าสุด ผู้อำนวยการ สพฐ. เขต 1 ชัยภูมิ ระบุว่า รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของผู้ปกครองและนักเรียนแล้ว โดยได้เรียก ผอ.คนดังกล่าวเข้ามาชี้แจงและให้โอกาสแก้ไขปัญหา แต่ ผอ.คนดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการแก้ปัญหา จนชาวบ้านเข้ามาร้องเรียน

สพฐ.ได้ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีการเงิน พบว่ามีมูล จึงตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมมีคำสั่งให้ย้ายผู้อำนวยการคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่ สพฐ.เขต 1

อ่านข่าว

สั่งย้ายแล้ว "รอง ผอ.รร." เก็บแป๊ะเจี๊ยะ เร่งสรุปผลสอบข้อเท็จจริง

ร้องพระลูกวัด จ.ฉะเชิงเทรา ขโมยเงินวัด 500,000 หลบหนี

ศาลสั่งจำคุก 1,825 ปี คดี ป.ป.ช.ศรีสะเกษฟ้อง “นายก อบต.”


เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

Wed, 1 May 2024 18:51:00

วันนี้ (1 พ.ค.2567) เวลา 18.20 น. สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย รายงานเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมี ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มีเสียงระเบิดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมเพลิง

เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ด้าน เทศบาลภาชี แจ้งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลภาชี ไปจนถึงตลาดภาชี และบริเวณใกล้เคียง สวมหน้ากากอนามัย และออกมาอยู่ในที่โล่ง เพื่อป้องกันอันตรายจากกลุ่มควันที่ฟุ้งกระจาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมเพลิง ทั้งนี้หากผู้ใดมีอาการระคายเคืองผิวหนัง ตา หายใจติดขัด ให้มาที่โรงพยาบาลภาชีทันที นอกจากนี้ ยังได้แจ้งจุดอพยพไปที่วัดโคกม่วง 

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสารธาณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การตรวจสอบเบื้องต้น จุดเพลิงไหม้เป็นบริเวณโกดังที่ 4 และ 5 ซึ่งเก็บสารที่เคยเกิดกลุ่มควันสีเหลืองส้ม เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้เร่งระดมรถโฟมเข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมอพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ประมาณ 50 หลังคาเรือน ไปที่วัดโคกม่วง

ประชาชนใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ อพยพไปที่วัดโคกม่วง

ประชาชนใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ อพยพไปที่วัดโคกม่วง

20.50 น. ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา ร่วมประสานกับ รพ.ภาชี และ จนท.กู้ภัย เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่รักษาตัวใน รพ.ภาชี ประมาณ 40 คน ไปยัง รพ.ท่าเรือ รพ.สมเด็จพระสังฆราช รพ.วังน้อย และ รพ.อุทัย ป้องกันอันตรายจากการสูดดมสารเคมี เหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี ล่าสุดยังคุมเพลิงไม่ได้ 

เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่รักษาตัวใน รพ.ภาชี ประมาณ 40 คน ไปยัง รพ.ต่างๆ

เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยที่รักษาตัวใน รพ.ภาชี ประมาณ 40 คน ไปยัง รพ.ต่างๆ

21.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงาน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้แก่ รถดับเพลิงโฟมและเคมี ขนาดใหญ่ รถดับเพลิงชนิดหอน้ำ รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว เคมีโฟม 4,000 ลิตร ลงพื้นที่สนับสนุนการระงับเหตุเพลิงไหม้ โกดังเก็บสารเคมี ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงสมาคมและมูลนิธิ

เจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัย

เจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัย

ย้ายผู้ป่วยจาก รพ.ภาชี ไป 4 รพ.

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) ทันที เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่กลุ่มควันลอยไปถึงโรงพยาบาลภาชี ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุ 600 เมตร เร่งย้ายผู้ป่วย 31 ราย ไปยังโรงพยาบาล 4 แห่ง

นพ.โอภาส กล่าวว่า โรงพยาบาลภาชี ยังได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ให้กับจุดอพยพประชาชนที่วัดโคกม่วง และจัดทีมเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต. ร่วมดูเเลประชาชน ที่โรงพยาบาลสนามด้วย โดยหลังสถานการณ์เพลิงไหม้สงบแล้ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมเเละอาชีวอนามัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่ต่อไป

คาดยังมีสารเคมีเหลืออีก 3 พันตัน

เวลา 22.00 น. นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุโรงานเก็บสารเคมีของกลางมีกรดอันตราย และของเสียอุตสาหกรรม รวมทั้งตัวทำละลายโซเว้นต์ คาดว่ามีสารเคมีที่ยังเหลืออีกราว 3,000 ตัน ซึ่งต้องควบคุมไม่ให้ไฟลามเข้าในโกดังที่ยังไม่เกิดไฟไหม้

ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ แนะนำประชาชนอยู่ในจุดอพยพ เพื่อป้องกันการสูดดมควันพิษจากเหตุเพลิงไหม้โกดังสารเคมี เตรียมลงพื้นที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ชุมชน และเฝ้าระวังสารตกค้างในสิ่งแวดล้อม

อ่านข่าว : ถนนยุบตัวในจีน รถตกลงไป 20 คัน เสียชีวิต 24 คน

อธิบดีกรมโรงงานฯ ประกาศลาออก กลางวงประชุม กมธ.อุตสาหกรรม

ชงครม.ตั้งปลัดพณ.คนใหม่สัปดาห์หน้า "ภูมิธรรม"เผยมีคนในใจแล้ว